Friday, March 30, 2012

GRAMMAR อังกฤษ เรื่อง TENSE : PAST PERFECT


โครงสร้าง : ประธาน + had + กริยาช่องที่ 3
ตัวอย่าง : I had done

1) เราใช้ past perfect tense พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ยังส่งผลมาจนถึงจุดๆนึงในอดีตที่เราพูดถึงเรื่องนั้นๆ เช่น
   - I went to a party last night. My friend went to the party too but we did not see each other. When I arrived at the party, my friend had gone home. ( เมื่อคืนฉันไปงานเลี้ยงมา เพื่อนฉันก็ไปงานเหมือนกัน แต่เราไม่ได้เจอกัน เพราะตอนที่ฉันไปถึงเพื่อนได้กลับบ้านไปแล้ว )

2) past perfect tense ยังใช้กับเรื่องที่กล่าวถึงช่วงระยะเวลาก่อนหน้าบางสิ่งบางอย่างในอดีต เช่น
   - I had gone out with my ex-boyfriend for two years before we broke up. ( ฉันคบกับแฟนเก่ามาได้ 2 ปี ก่อนที่เราจะเลิกกัน )

Thursday, March 29, 2012

GRAMMAR อังกฤษ เรื่อง TENSE : PAST PERFECT CONTINUOUS


GRAMMAR อังกฤษ เรื่อง TENSE วันนี้เสนอ PAST PERFECT CONTINUOUS TENSE >,<

โครงสร้าง : ประธาน + had + been + กริยาing
ตัวอย่าง : It had been happening

1) เราใช้ past perfect continuous tense พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่อีกเรื่องหนึ่งจะเกิดขึ้นในอดีต เช่น
   - I broke up with my boyfriend two years ago. We had been going out for three years.

2) Past perfect continuous tense ยังถูกใช้ในการพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต และยังคงดำเนินต่อไปจนถึงช่วงเวลาช่วงหนึ่งในอดีต เช่น
   - I had been working as a salesperson for two years when it went bankrupt.

เปรียบเทียบ past perfect continuous tense กับ past continuous tense

   past continuous tense จะเน้นที่เรื่องของการกระทำที่กำลังทำอยู่ขณะที่เราหมายถึงเวลานั้นในอดีต ในขณะที่ past perfect continuous tense จะเน้นที่ช่วงเวลาก่อนหน้าเหตุการณ์เรื่องนั้นๆในอดีต เช่น
   - I was so sad because I was being complained by the customers. ( ประโยคนี้จะเน้นว่าฉันกำลังรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเพราะกำลังถูกลูกค้าบ่น ในขณะช่วงเวลาที่เราพูดถึงอย่างแน่นอน )
   - I was so sad because I had been being complained by the customers. ( ประโยคนี้จะเน้นว่าฉันกำลังรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเพราะถูกลูกค้าบ่น เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง สามารถเป็นไปได้ว่ายังคงกำลังโดนด่าขณะเวลาในอดีตที่พูดถึง หรือพึ่งจะโดนด่าเสร็จไป )

Tuesday, March 27, 2012

GRAMMAR อังกฤษ เรื่อง TENSE : FUTURE SIMPLE


โครงสร้าง : ประธาน + will/ shall + กริยาช่องที่ 1
ตัวอย่าง : I will go to the party.

1)
เราใช้ I will ตอนที่เราตัดสินใจที่จะทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งขณะที่พูด แต่เราไม่ใช้ will เมื่อพูดถึงเรื่องที่เราวางแผนว่าจะทำไว้แล้ว เราจะใช้ I am doing แทน เช่น
   - I have left my wallet at the table. I will go and get it. (
ผู้พูดคิดว่าจะทำเมื่อตอนที่พูด ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า )
   - I am getting married next month. (
ผู้พูดมีการวางแผนไว้แล้ว )

2) ปกติเราจะใช้ shall กับ I และ we เราสามารถพูดได้ว่า I will, I shall, we will, we shall แต่ประธานตัวอื่นเราจะไม่ใช้ shall

3) Shall
ถูกใช้ส่วนมากในคำถาม เป็นการถามความคิดเห็น เช่น
   - Shall I turn off the music? (
ถามว่าคุณต้องการให้ฉันปิดเพลงไหม )
   - What shall I do? (
ถามว่าคุณแนะนำให้ทำอะไร )

4)
ถ้าประโยคคำถามโดย will จะเป็นคนละความหมาย เช่น
   - Will you turn off the music? (
ผู้พูดต้องการให้คุณปิดเพลง )

Monday, March 26, 2012

GRAMMAR อังกฤษ เรื่อง TENSE : PRESENT PERFECT CONTINUOUS

โครงสร้าง : I/ we/ they/ you + have + been + กริยาing
                 he/ she/ it + has + been +
กริยาing 
ตัวอย่าง : It has been raining for 1 hour.

1) เราใช้ present perfect continuous tense ในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตและยังคงเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน หรืออาจจะพึ่งหยุดไป เช่น
   - I have been waiting for a bus for 2 hours. (
ฉันรอรถมา 2 ชมแล้ว และยังคงรออยู่ )

2) เรายังสามารถใช้ present perfect continuous tense ในการพูดถึงเรื่องของการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำๆในช่วงระยะเวลา เช่น
   - My boyfriend is a very good salesperson. He has been working as a salesperson since he was 18. ( 
แฟนฉันเป็นพนักงานขายที่ดีมาก เขาทำงานนี้มาตั้งแต่เขาอายุ 18 ปี )

 3) Present perfect continuous tense 
ยังใช้ได้ในกรณีที่จะถามหรือจะพูดว่าระยะเวลาเท่าไหร่ กับเรื่องหรือเหตุการณ์ที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่ เช่น
   - How long have you been watching TV? ( คุณดูทีวีมานานเท่าไหร่แล้วนี่ ขณะที่ถามก็ยังนั่งดูอยู่ )


Sunday, March 25, 2012

GRAMMAR อังกฤษ เรื่อง TENSE : PAST CONTINUOUS

โครงสร้าง : I/ he/ she/ it + was + กริยาing
                 we/ you/ they + were +
กริยาing
ตัวอย่าง : I was living in Canada this time last year.

1) เราใช้ past continuous tense เวลาที่พูดถึงเรื่อง เวลาที่เราอยู่ในระหว่างการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในอดีต ซึ่งเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้วในอดีตแต่ยังไม่สิ้นสุดในช่วงเวลาที่เรากล่าวถึง เช่น
   - We were having a good time last night.

ความแตกต่างระหว่าง past continuous tense กับ past simple tense คือ past continuous tense นั้นอยู่ระหว่างการกระทำ แต่ past simple tense พูดถึงเหตุการณ์ที่จบไปแล้วในอดีต แต่เรามักใช้คู่กันในประโยคที่จะบอกว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่ทำอีกสิ่งอยู่ เช่น
   - I was taking a shower when you called me last night. ( 
เมื่อคืนที่คุณโทรมาฉันกำลังอาบน้ำอยู่เลย )

Saturday, March 24, 2012

GRAMMAR อังกฤษ เรื่อง TENSE : PAST SIMPLE

โครงสร้าง : ประธาน + กริยาช่องที่ 2
ตัวอย่าง : I went to the party last night.

1) เราใช้ past simple tense เวลาที่พูดถึงเหตุการณ์ในอดีต แต่ไม่เหมือนกับ present perfect ตรงที่เราเพียงพูดถึงเวลาในอดีตช่วงหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลมาถึงปัจจุบัน เช่น
   - I have lost my wallet. ( present perfect
แสดงถึงว่าฉันได้ทำกระเป๋าตังหายไปในอดีต และตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ )
   - I lost my wallet. ( past simple
แสดงให้รู้เพียงว่าฉันได้ทำกระเป๋าตังหายไป แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้หาเจอแล้วหรือยัง )

2) ใช้ past simple tense ในการถาม เมื่อไหร่ เช่น
   - When did you come home? (
เราไม่ใช้ when have you come home? )

3) เรายังใช้ past simple tense ในการพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำๆในอดีต และมักมีคำบอกความถี่อยู่ในประโยคด้วย แต่เหตุการณ์เหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน เช่น
   - I always went to church last year.

4) Past simple tense ยังใช้ได้ในการบอกรายการเรื่องของการกระทำที่เสร็จไปแล้ว เช่น
   - I finished work, went to the party, and got drunk.

เวลาจะทำประโยคคำถามหรือปฎิเสธ เราใช้ did/ didn't + infinitive เช่น
   - A : Did you go to the party last night?  
คุณได้ไปงานเลี้ยงไหมเมื่อคืนนี้
   - B : No, I didn't go to the party last night.  
ไม่ ผมไม่ได้ไป

 *
ช่อง 2 ของ is/ am / are คือ was/ were*

ส่วนมาก กริยาช่องที่ 2 จะลงท้ายด้วย -ed แต่จะมีบางตัวที่ กริยาช่องที่ 2 และ 3 จะเปลี่ยนรูป
ยังมีหลักเล็กๆน้อยๆในการเติม -ed ข้างหลังกริยา คือ บางครั้งเราจะเติมพยัญชนะตัวสุดท้ายเพิ่มไปอีกตัว ถ้าหน้าพยัญชนะตัวนั้นเป็นสระ เช่น
   - plan/ planned   stop/ stopped   rub/ rubbed

ปล. ถ้าเป็นคำมากกว่า 1 พยางค์ เราจะเพิ่มพยัญชนะไปอีกตัว เฉพาะในกระณีทีพยางค์สุดท้ายเป็นพยางค์ที่เราเน้นเสียง เช่น
   - permit/ permitted   regret/ regretted

GRAMMAR อังกฤษ เรื่อง TENSE : PRESENT PERFECT


มาต่อเรื่อง tense กัน กับ present perfect นี่ก็เป็น tense อีกเรื่องหนึ่งที่ใช้บ่อยๆ

โครงสร้าง : ประธาน + have/has + กริยาช่องที่3
ตัวอย่าง : I have worked hard to learn English.

1)
เราใช้ present perfect tense เวลาพูดถึงเรื่องที่ทำในอดีต และส่งผลถึงปัจจุบัน เช่น
   - I have lost my wallet. ( 
ฉันทำกระเป๋าตังหาย และตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ )

2)
เรายังใช้ present perfect tense ในการบอกข้อมูลใหม่ๆ หรือการบอกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ เช่น
   - I have just bought a new car. ( 
ฉันพึ่งซื้อรถคันใหม่ )

3) Present perfect tense 
สามารถใช้กับ today/ this morning/ this evening ได้ ในกรณีที่เวลาเหล่านี้ยังไม่สิ้นสุด เช่น
   - I have not worked hard today.

 4) Present perfect tense 
ยังใช้ได้เวลาที่ต้องการถามถึงจำนวนครั้ง หรือจำนวนต่างๆกับเรื่องที่สิ้นสุดไปแล้ว เช่น
   - How many times have you played this game? ( 
คุณเล่นเกมส์นี้มากี่ครั้งแล้ว )

ปล. อย่าใช้ present perfect tense กับสิ่งที่เกิดขึ้นมานานแล้ว หรือสิ่งที่ไม่มีผลถึงปัจจุบัน เช่น
   - Beethoven composed many songs. 
เราจะไม่พูดว่า Beethoven has composed many songs. เพราะเกิดขึ้นมานานมากแล้ว

จบแล้ววันนี้ อย่าลืมท่องเรื่อง tense กันเยอะๆนะ >,<

Friday, March 23, 2012

GRAMMAR อังกฤษ เรื่อง TENSE : PRESENT CONTINUOUS

วันนี้มาต่อกันอีกเรื่อง tense นี่ก็เป็นอีก tense ที่เราจะมีโอกาสได้ใช้บ่อยในเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวันของเรา

โครงสร้าง : ประธาน + is/am/are + กริยาing 
ตัวอย่าง : I am reading a book.

1) เราใช้ present continuous tense ส่วนมากในการพูดเรื่องที่กำลังทำอยู่ขณะนี้ เช่น
- I am doing something
หมายความว่า กำลังทำอยู่หรือเริ่มทำแล้วแต่ยังไม่จบ โดยส่วนมากจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะกำลังพูด เช่น
- Do not talk to me!!! I am reading a book (
ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ ผู้พูดกำลังอ่านหนังสือขณะที่กำลังพูดอยู่ )

2) แต่มีบางเรื่องก็ไม่ได้เกิดขึ้นขณะที่กำลังพูด เช่น
- I am reading Harry Potter book at the moment. I will lend it to you when I have finished it.
ผู้พูดไม่ได้กำลังอ่านหนังสืออยู่ในขณะที่พูด แต่หมายความว่าเค้าได้เริ่มอ่านแล้วแต่ยังอ่านไม่เสร็จ เค้ากำลังอ่านอยู่

3) เราอาจใช้ present continuous tense เวลาพูดถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นแน่นอน ในอนาคต เช่น
- I am going to get drunk tonight. (
คืนนี้ฉันจะเมาาาา )

4) เรายังใช้ present continuous tense พูดถึงเรื่องทีกำลังจะปลี่ยนที่กำลังเกิดขึ้น เช่น
- My English is getting better. (
ไม่ใช่ My English gets better )

5) อีกกรณีใน tense นี้ คือการที่จะบอกถึง การกระทำที่เกิดขึ้นบ่อยๆเกินกว่าปกติ ส่วนมากจะมีคำว่า always ในประโยคด้วย เช่น
- Joe hates his customers because they are always complaining. (
โจ้เกลียดลูกค้าของเค้าเพราะว่าลูกค้าชอบบ่นเรื่องนั่น เรื่องนี่เป็นประจำ )

** กริยาต่อไปนี้ปกติแล้วเราจะไม่ใช้ใน present continuous
like   love   hate   want   need   prefer   know   realize   suppose   mean   understand   believe   remember   belong   contain   consist   depend   seem
เช่น He is so selfish. I hate him ( ไม่ใช้ I am hating him )

เวลาที่ think หมายความถึงเชื่อเราไม่ใช้ present continuous เช่น
- What do you think about Thailand? (
เราไม่ใช้ thinking ) แต่ I am thinking about quitting this job. ( ใช้ thinking ได้เพราะมีความหมายเหมือน ฉันกำลังพิจารณาที่จะลาออกจากงานนี้ )

เวลาที่ have หมายความถึงการเป็นเจ้าของเราไม่ใช้ present continuous เช่น
- I have 2 brothers and 1 sister. (
ไม่พูดว่า I am having 2 brothers and 1 sister )
** ปกติเราไม่ใช้ present continuous กับกริยา see แต่ สามารถใช้ได้ในกรณีที่ see หมายถึงการมีนัดหรือจะไปพบใครก็ตาม เช่น
- I am seeing the dentist tomorrow. (
ฉันมีนัดกับหมอฟันพรุ่งนี้ )

วันนี้จบแค่นี้กับเรื่อง tense พรุ่งนี้มาต่อกันอีกเรื่อง ^^

Thursday, March 22, 2012

GRAMMAR อังกฤษ เรื่อง TENSE : PRESENT SIMPLE

ในการเรียน grammar ภาษาอังกฤษ เรื่อง tense เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าเราใช้ผิด tense ความหมายของประโยคที่ต้องการจะสื่อออกไป อาจจะผิดไปคนละเรื่องเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นมาทบทวนเรื่อง tense กัน

โครงสร้าง : ประธาน + กริยาช่องที่ 1
ตัวอย่าง : I play football.

1) เราใช้ Present Simple เวลาพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เรื่องที่เกิดซ้ำๆ หรือเรื่องที่เป็นความจริง ไม่สำคัญว่าเหตุการณ์นั้นจะกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้หรือเปล่า เช่น
- The earth goes round the sun. (
โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์)

2) เรายังใช้ Present Simple ในการพูดบอกความถี่ในการทำสิ่งใดๆ เช่น
- I get up at 6 o'clock every morning. (ฉันตื่น 6 โมงทุกเช้า)
- How often do you play basketball? (
คุณเล่นบาสเกตบอลบ่อยแค่ไหน?)

3) Present Simple ยังใช้ได้ในเรื่องการพูดถึงตารางเวลา เช่น
- My flight departs at noon. (เที่ยวบินของฉันออกตอนเที่ยง)

4) Present Simple ยังถูกใช้ในการบอกหรือแนะนำ สิ่งต่างๆ เช่น
- Shut the door. (ปิดประตู)
- A : Do you know where the post office is? (คุณรู้ไหมว่าที่ทำการไปรษณีย์อยู่ที่ไหน?)
  B : Go straight and turn right. It is on your right. (เดินตรงไปแล้วเลี้ยวขวา มันจะอยู่ทางขวามือของคุณ)

*กริยาช่องที่ 1 ที่ตามหลัง he/she/it ต้องเติม s หรือ es ตามหลักการต่อไปนี้
-
คำที่ลงท้ายด้วย -s/-ss/-sh/-ch/-x ต้องเติม es เช่น watch/watches, wash/washes, miss/misses
-
รวมถึงคำเหล่านี้ด้วย go/goes, do/does
-
หากคำที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม -es แต่ถ้าหาก หน้า y เป็นสระ ให้เติม -s หลัง y ได้เลย

เราใช้ do และ does ในการทำประโยคคำถาม
Do + I/you/we/they + กริยา
Does + he/she/it +
กริยา

และประโยคปฎิเสธ
I/you/we/they + don't + กริยา
he/she/it + doesn't +
กริยา
เช่น A : Do you smoke? คุณสูบบุหรี่ไหม
      B : No, I don't smoke.
ไม่ ฉันไม่สูบ